สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวมักแฝงแนวคิดที่มีค่า เพียงรู้จักสังเกตและหยิบยกมาใช้ ดังเช่นที่ "บุญชัย ปัณฑุรอัมพร" ซีอีโอ ซาบีน่า ได้เรียนรู้จากกิจกรร
“สิ่งรอบตัวเรามีอะไรแฝงไว้มากมายที่รอให้เราเข้าไปค้นหาและหยิบมาใช้ประโยชน์” บุญชัยบอกและอธิบายเพิ่มเติมให้เห็นภาพว่า
อย่างธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า สีสันจากมวลดอกไม้นานาชนิด อากาศสดชื่นและมีลมพัดเย็นสบาย
หากใครได้สัมผัสและใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเหล่านี้ ก็เหมือนเป็นการ "เติมพลัง" ให้ทั้งร่างกายและสมองของตัวเอง เมื่อจะคิดหรือทำอะไร ย่อมทำได้ดีมีประสิทธิภาพกว่าสภาพที่ร่างกายและสมองไม่พร้อมหรืออ่อนล้า
หรือการพายเรือแคนู กิจกรรมที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ นอกจากเป็นกีฬาที่ให้เหงื่อและช่วยผ่อนคลายความเครียดแล้ว สิ่งที่พบเพิ่มเติม คือ หากต้องการพายได้ดี สามารถบังคับเรือไปในทิศทางที่ต้องการ นอกจากจะเรียนรู้วิธีการพาย ยังต้องศึกษาถึงสภาพแวดล้อมอื่นๆ เช่น การพัดของแรงลม การไหลของกระแสน้ำ ฯลฯ เพราะปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ล้วนช่วยให้เราสามารถวางแผนได้ว่า การไปถึงจุดหมายปลายทางได้ควรพายเรืออย่างไร
“จุดนี้ไม่ต่างจากการทำธุรกิจ ถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จ ต้องศึกษาและเรียนรู้ปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นจุดอ่อน จุดแข็ง ของตัวองค์กรเราและของคู่แข่ง สภาพตลาด และความต้องการผู้บริโภค เพื่อนำมาวางไดเรคชั่นของบริษัท”
การเรียนรู้สิ่งรอบตัวเพื่อนำประโยชน์มาใช้บริหารธุรกิจของบุญชัยยังมีอีกหลายตัวอย่าง เช่น การตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่เพื่อเปลี่ยนระบบพลังงานในโรงงานทั้ง 4 แห่ง ที่ท่าพระ พุทธมณฑลสาย 5 ชัยนาทและยโสธร สู่ระบบประหยัดพลังงาน Evaporative Cooling Pads System หรือ EVAP ซึ่งสามารถทำให้อุณหภูมิในโรงงานคงไว้ที่ 25 องศาเซลเซียลได้แบบไม่เปลืองไฟ ที่มาของความคิดนี้ บุญชัยเล่าว่า มาจากการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ปั๊ก
เขาอ่านหนังสือพบว่า การเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้ให้มีสุขภาพดี ต้องให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ซึ่ง EVAP เป็นระบบที่ช่วยเรื่องนี้ได้ดี แถมประหยัดค่าไฟ
เมื่อเห็นถึงประโยชน์ เขาจึงนำข้อมูลนี้ไปให้ทีมงานศึกษาและขยายผลต่อเพื่อนำมาใช้ภายในโรงงาน Swiss Replica Watches
หลังติดตั้งระบบนี้ 3 เดือน ผลที่ตามมาจากที่เคยจ่ายค่าไฟเดือนละ 8 แสนบาท ลดลงเหลือ 4 แสนบาทต่อเดือน
...แต่สิ่งรอบข้างที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานและทำให้ค้นพบแนวทางที่เป็นประโยชน์ในการบริหารองค์กรซาบีน่ามากที่สุด คือ ลูกชายวัย 13 ปีของเขาเอง
บุญชัยเล่าว่า การได้ดูแลลูกชายถือเป็นความสุขของชีวิต และทำให้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่นำมาใช้ในการบริหารจัดการองค์กรแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสอนพนักงานและการนำสิ่งที่ได้จากโรงเรียนลูกชายมากำหนดเป็นหนึ่งในนโยบายดำเนินธุรกิจ
"ในการสอนนั้น เราต้องมองและคิดกับพนักงานเหมือนลูกของตัวเอง เพราะถ้าไม่คิดแบบนี้ เมื่อพนักงานทำผิดพลาด ทางออกทางเดียวที่ทำ คือ ลงโทษหรือไล่ออก ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ถูกและสร้างความยั่งยืนให้องค์กร"
ในทางกลับกันบุญชัยบอกว่า ถ้าคิดว่า เขาเป็นลูกคนหนึ่ง ไม่ว่าจะดีจะชั่ว หรือทำผิดอย่างไร จะพยายามให้กำลังใจและสอนให้มาในทางที่ถูกที่ควร
เช่นเดียวกับนโยบายรักษ์สิ่งแวดล้อม บุญชัยได้นำเรื่องการแยกขยะจากโรงเรียนรุ่งอรุณซึ่งลูกชายเคยเรียนมาใช้เป็นต้นแบบในการปรับใช้แยกขยะที่โรงงานของซาบีน่า
รวมไปถึงการนำรูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียนแห่งนี้ที่เน้น Child center หรือการให้เด็กเป็นศูนย์กลางในการกำหนดหลักสูตร และสนับสนุนให้เด็กคิดเอง เรียนรู้เองแบบบูรณาการ มาเป็นหลักพัฒนาศักยภาพคนในองค์กร
โดยเน้นให้พนักงานนอกจากหน้าที่ของตัวเอง ยังต้องเรียนรู้และสามารถทำงานในส่วนอื่นได้ ซึ่งรูปแบบนี้จะช่วยลดความผิดพลาดและทำช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น
“การเรียนรู้เรื่องต่างๆ เหล่านี้ ไม่มีสูตรที่จะบอกได้ว่า 1+1 ต้องเป็น 2 ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมองและวิธีคิดที่ทุกคนย่อมมีแตกต่างกันไป อย่างของผมมาจากการสังเกตสิ่งรอบตัวมาผสมผสานกับองค์ความรู้ต่างๆ ที่มีมา”
ดังนั้นวิถีของซาบีน่า อาจมีทั้งเหมือนและแตกต่างจากหลายองค์กร เพราะไม่ได้มาจากตำราหรือประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากการสังเกตและคิดต่อยอดจากสิ่งรอบตัวซึ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารซาบีน่า เห็นแล้วว่า เหมาะและมีประโยชน์กับองค์กรแห่งนี้ rolex replica watches
ขอบคุณบทความดีๆจาก กรุงเทพธุรกิจ |