1.ต้องทำเป็นเอกสาร คือทำเป็นหนังสือ ใช้ภาษาไทยหรือต่างประเทศก็ได้ (มีสำเนาเก็บไว้ด้วย สำเนาถ่ายเอกสารก็ได้) 2.เขียนด้วยลายมือของตัวเองทั้งฉบับ อย่าใช้คนอื่นเขียน อย่าใช้วิธีพิมพ์ (จะเป็นโมฆะ) ใครเขียนหนังสือไม่ได้ หมดสิทธิ์ 3.จะมีพยานหรือไม่มีก็ได้ กฎหมายไม่ห้ามไว้ แต่ถ้าจะให้บุคคลที่ไว้วางใจ (ไม่ทันตายง่ายๆ)เป็นพยานซัก 2 คนก็ดี
ป้องกันใครเถียงภายหลังว่า ไม่ได้ทำพินัยกรรม หรือคนเซ็นปลอม แล้วไม่มีพยานตัวเป็นๆมายืนยัน 4.ต้องลงวัน เดือน ปี ขณะที่ทำ เพื่อพิสูจน์ความสามารถของผู้ทำพินัยกรรม ว่าไม่เลอะเลือนฟั่นเฟือนในเวลานั้น หรือใช้
พิสูจน์ทราบ การทำพินัยกรรมก่อนหรือหลังฉบับอื่น ถ้าหากมี ขืนไม่ลงวันที จะตกเป็นโมฆะ 5.ต้องลงลายมือชื่อหรือเซ็นชื่อ ผู้ทำพินัยกรรม ใช้ลายพิมพ์นิ้วมือ หรือ เครื่องหมายอย่างอื่นไม่ได้เด็ดขาด ไม่ลงชื่อเซ็นชื่อ
เป็นโมฆะ 6.การแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นการขูด ลบ ตก เติม แก้ไขเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ผู้ทำพินัยกรรมทำได้ด้วยมือตนเอง แล้วลง
ลายมือชื่อหรือเซ็นกำกับไว้ ไม่ลงชื่อกำกับตรงไหน ก็ไม่สมบูรณ์เฉพาะที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงตรงนั้น ไม่เสียไปทั้งฉบับ
ผลการเป็นโมฆะด้วยเหตุผลต่างๆที่ว่ามา หรือเสียไปเพราะแก้ไขตกเติมไม่ได้ ถ้าทำให้ทรัพย์มรดก เหลือรอดจากพินัยกรรม หรือกลายเป็นผู้ที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ มรดกก็ตกแก่ทายาทโดยธรรม ถ้ามี หากไม่มี ก็ตกเป็นของแผ่นดินหรือของรัฐ อีกอย่างไม่ต้องกังวลว่า เขียนผิด เขียนไม่ถูกต้อง เพราะนั่งเขียนนอนเขียนตามลำพังอยู่ที่บ้าน เขียนและอ่านทบทวนจนพอใจ ถ้ามีการแก้ไขตกเติมไม่สวยงาม ก็นั่งคัดใหม่ขึ้นมา อ่านออกเสียงซะด้วย จะรู้ว่าผิดตกบกพร่องได้ดีกว่าไม่อ่านออกเสียง แต่อย่าดังจนข้างบ้านได้ยิน ที่ร่างไว้หรือไม่ใช้ เผาลูกเดียว อย่าให้เหลือ
ทำเสร็จวันนี้ วันหน้าคิดใหม่ คิดได้ ไม่พอใจ ทำใหม่ซิครับ อย่าลืมเผาอันเก่าทิ้งซะ
การระบุทรัพย์มรดก ร่างเป็นรายการหรือบัญชีขึ้นให้ครบจำนวน ครบถ้วนตามประสงค์ ใช้ถ้อยคำให้รัดกุม ครอบคลุม ไม่ครึ่งๆกลางๆ ไม่รู้ว่าอะไรแน่ ที่ดิน บ้านช่อง มีเอกสารระบุให้ครบ เงินในบัญชีธนาคารก็ระบุให้ถูกต้อง อย่าผิดแบงก์ หรือจะรวบไปเลยว่า
"เงินในธนาคารของข้าพเจ้าทุกแห่งที่มีเงินเหลืออยู่ ได้แก่ธนาคาร ก.ข.ค." ก็ใช้ได้
อ้อขมวดความไว้ตอนท้ายรายการทรัพย์สิน ให้เป็นอีกข้อหนึ่งใจความว่า
"หากมีทรัพย์มรดกนอกเหนือจากที่กล่าวไว้แล้ว ให้ถือเป็นทรัพย์มรดก ตกได้แก่ ..."
ก็ตัดปัญหา การเขียนตกหล่นหลงลืมได้อย่างเท่ๆ และได้ผล
การยกทรัพย์สมบัติให้องค์กรการกุศล ต้องระบุให้แม่นยำ ชื่อเสียงเรียงนามดูให้ดี รู้ที่ตั้ง ควรไปเยี่ยมๆมองๆ ทำความรู้จักแบบชาวบ้านทั่วไปให้แน่ใจว่า ไม่ใช่มิจฉาชีพ หรือพวกแก๊งตั้งไว้ให้โกงแหลกอย่างที่เห็นในบ้านเราไม่รู้สักเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่รัฐผู้มีหน้าที่ควบคุมดูแล ปล่อยปละละเลย...
พอเรื่องแดงขึ้นมาแต่ละแห่ง ชาวบ้านตาดำๆ โดนโกงกันไปเป็นแถบๆน่าอนาถฉิบเป๋ง
เหตุผลที่ผมแนะนำให้ใช้วิธีเขียนเองทั้งฉบับที่สำคัญอีกอย่าง คือ
1.ลับเฉพาะ ไม่ล่วงรู้ถึงใครง่ายๆ ให้เกิดผลบวก-ลบ ตามมา ขณะยังมีลมหายใจ เช่น ทายาทที่เขารู้ตัวว่าปิ๋วมักเหล่ใส่ หรือไม่มองหน้าเลยก็ได้ ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ไม่นับญาติว่างั้นเหอะ
2.ทรัพย์สินอาจถูกรบกวน ยื้อแย่ง เช่น มีการบุกรุกที่ดิน เข้ามาแย่งดื้อๆ รถของเราที่ญาติได้ใช้สอย อาจเสียหาย ไม่ได้รับการดูแล ถือว่าข้าจะไม่ได้มรดกนี่หว่า
ถามว่า ทำยังไง เวลาเราละจากโลกไปแล้ว มีการเปิดพินัยกรรม แจกจ่ายมรดกตามที่เราต้องการ
ตอบว่า มีนะเอ้อ ทายาทจ้องไว้แล้ว ยังไม่เสร็จงานศพเราด้วยซ้ำ ไปขึ้นศาล ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก เอามรดกไปกินไปแบ่งกัน โดยอ้างดื้อๆว่า เจ้าของมรดกไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้
เครดิต :ณรงค์ นิติจันทร์
računanje postotka
Biznis ideje
ljubavni sat
evri u dinare
gledalica
vrijeme sutra
umrli danas
Weight Loss Injections
|